Indicus Battalion ( ชื่อชั่วคราว ) - นิยาย Indicus Battalion ( ชื่อชั่วคราว ) : Dek-D.com - Writer
×

    Indicus Battalion ( ชื่อชั่วคราว )

    จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวิทยาการมาเจอกับเวทย์มนตร์ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ที่ถือครองพิมเขียวแห่งสุดยอดอาวุธของมนุษย์ชาติ ได้ไปเกิดใหม่ยังดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทย์มนตร์ บนดินแดนที่กว้างไหญ่ยิ่งกว่ามวลดารา

    ผู้เข้าชมรวม

    9,041

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    17

    ผู้เข้าชมรวม


    9.04K

    ความคิดเห็น


    71

    คนติดตาม


    274
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  43 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  22 เม.ย. 61 / 13:16 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัสดีครับผม!!! ผู้อ่านทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านนิยายของกระผม

     

    เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกที่กระผมใด้เขียนขึ้นมา และใด้มีความตั้งใจที่จะเขียนมันจริงๆ 

    ตัวผู้แต่เอง ด้้วยที่ว่าชอบความเป็นอิสระ และ เกลียดความอยู่ในกรอบที่สุด 

    เพราะฉะนั้น เรื่องที่กระผมแต่งขึ้นมานี้นั้นก็ถูกออกแบบมาให้สามารถที่จะเดินเรื่องไปใด้อย่างไม่มีสิ้นสุดเลย

    และออกแบบมาให้จบไม่ใด้ด้วย 

     

    อีกสองสามเหตุผลที่กระผมแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาก็ ส่วนนึงเพราะอดไม่ใด้ที่อ่านนิยยายแฟนตาซีเกิดไหม่หลายๆเรื่องที่ตัวเอกไม่ค่อยใด้ใช้ความรู้จากโลกเก่าให้เป็นประโยชน์สักเท่าไหร่ เลย 

     อารมผู้เขียนตอนนั้นรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก โดยเพิ่งจะมาเข้าใจตนเองก็ตอนที่ได้ดู Anime ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Gate - Thus the JSDF Fought There 

    และใด้เห็นฉากการสู้รบของพลทหารที่ใช้ปืน ระเบิด รวมถึงอาวุธสมัยไหม่มากมายในการบดขยี้กองทัพสมัยพระเจ้าเหาที่ไม่รู้จักกระทั่งปืนหรือระเบิด พร้อมกับใด้เห็นหน้าของพวกนั้น 

    จึงเข้าใจใด้ว่า " เห้ย!! มันใช่อะ!! หน้าแบบนั้นแหละใช่เลย!! " ตั้งแต่นั้นมาตัวผู้เขียนจึงไม่มีความสนุกเท่าไหร่เวลาที่ใด้อ่านนิยายแฟนตาซีต่างโลก ที่ตัวเอกมันใช้ และฝึกฝนแค่เวทย์มตร์เพียงอย่างเดียวอีกเลย

     

    นิยายเรื่องนี้จึงถือกำเนิดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวสมองของผู้เขียนคนนี้ที่แต่งมาเพื่อความสะใจส่วนตัวล้วนๆ

    และขอเพิ่มเติมด้วยว่าสิ่งที่ผู้เขียนจะเขียนลงไปในนิยายเล่มนี้มันจะไม่จบแค่รถถัง เรือรบ หรือจรวดมิสไซล์ และกระทั่งหัวรบนิวเคลียร์ อย่างแน่นอน

    ตัวผู้เขียนมีความตั้งใจที่จะเขียนไปถึงยุคอวกาศของมนุษย์ วิทยาการที่ไปใด้ถึงขีดสุดไนช่วงสงครามอวกาศและผสมมันเข้ากับเวทย์มนตร์

     

    ดังนั้น จึงตั้งใจจะเขียนให้ความเว่อร์ และความสะใจให้มันโดนตัวผู้เขียนเองจังๆโดยเอาเรื่องความซ้ำและความเป๊ะนั้นเป็นรอง 

     

     

    ก็ ด้วยที่เป็นนักเขียนมือไหม่ ยังไม่เคยแต่งนิยายมาก่อนแม้แต่เรื่องเดียว ช่วงแรกๆอาจมีแปลกๆไปบ้าง แต่ขอเถิดอย่าเพิ่งเลิกอ่านนะ!!!! 

    และผมก็พูดจริงๆด้วย ตอนผมเริ่มแต่งมานั้นนิยายเรื่องนี้มันไม่ต่างกับขยะเปียกเลยล่ะ.....จนพอจับทางได้เล็กน้อยก็เลยสามารถแต่งแบบโอเคๆได้น่ะนะครับ......


    ถึงจะบอกว่าทำเพื่อตัวเองทั้งหมดก็เถอะนะครับ แต่ก็ยังหวังให้เหล่านักอ่านนั้นมาคอมเม้นชื่นชมนิยายของผมอยู่นะเออ!!!!!!!! เพราะงั้น ขอให้สนุกนะ ถ้าอยากให้เพิ่มอะไรๆก็บอกกันใด้นะ เพราะไม่ใด้คิดพลอตจริงจังอยู่แล้ว

     

     

    เอาล่ะ พูดเกริ่นมาก็มากแล้ว ได้เวลามาทำความรู้จักกับตัวละครหลักของตัวกระผมสักที

    ทุกๆท่าน 

     

    ผู้แต่งนิยาย Indicus Battalion, เดียร์ยู ขอเสนอ.....

    ตัวละครหลักของนิยายเรื่องนี้ นาม 

    Zarnervon

     

     " สวัสดีขอรับ ตัวกระผม นาม ซาร์เนอวอน จะขอนำทุกท่านเข้าสู่เรื่องราวของตัวกระผมเองขอรับ

    เรื่องราวของตัวกระผมนั้นมันเริ่มมาตั้งแต่ชาติปางก่อนนู้นเลย แต่ผมคงจะต้องขอเล่าสั้นๆนะครับ พวกท่านจะได้ไปอ่านดู เรื่องราวของกระผมที่เหลือเองยังไงล่ะ!!

    โอเค ก่อนอื่น ชาติปางก่อนของตัวกระผมนั้นก็เป็นโลกคล้ายๆกับที่พวกคุณๆอยู่นั่นล่ะ

    ใช่ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาเดียวกัน

    ลองนึกภาพโลกของพวกคุณในอีกสามถึงสี่พันปีข้างหน้าสิ

    ในโลกที่มนุษย์นั้นขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของการวิวัฒนาการทางปัญญา

    วิทยาการก้าวหน้าในทุกๆด้าน การแพทย์ วิทยาศาสตร์ การศึกษา วิศวกรรมสาขาต่างๆ

    ตึกที่ไม่มีวันพังในคราวแผ่นดินไหวที่รุนแรง

    บ้านที่ตั้งมั่นต่อให้คลื่นยักษ์ถาโถมใส่ก็ไม่ระแคะระคาย

    ในโลกที่ทุกๆการป่วยสาทารถรักษาได้

    และในโลกที่กระสุนนัดเดียวสามารถถล่มภูเขาหินแกร่งทั้งลูกได้

     

    นั้นคือในช่วงสุดท้ายก่อนที่มนุษย์จะได้รับรู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 

     ดาวของพวกเขาใกล้ดับ

    ทรัพยากรหมดไม่เหลือ

    โลหะหาแทบไม่ได้บนผิวโลกจนต้องขุดไปที่เนื้อโลก

     

    ดาวของพวกเขากำลังจะตายก่อนวัยอันควร

     

    พวกเขาก็รู้ดี แต่กลับไม่พะยายามรักษาดาวของเขาทั้งที่สามารถทำได้

    แต่ที่พวกเขาทำก็คือ.....ให้ทายสิพวกเขาทำอะไร 

     

    พวกเขาย้ายไปดาวดวงอื่นไงล่ะ!!

    ใช่!! แต่ด้วยการช่วยเหลือของพวกเราน่ะนะ 

    ถ้าตามตัวพวกเขาเองน่ะ พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเดินทางมาถึงเราด้วยซ้ำ

    แต่เรายื่นมือเข้าไปช่วย

     

    พวกมนุษย์ย้ายมาอยู่กับเรา

    แต่ว่า....พวกเราเข้ากันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่.....

    สังคมของเรากับมนุษย์นั้นค่อนข้างที่จะ....แตกต่างกัน....

    พวกเรานั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง

    ไม่ใช่พวกเราไม่มีความรู้สึกหรอกนะ เพียงแต่พวกเราเห็นความสำคัญของส่วนรวมมากกว่าส่วนตนเท่านั้นเอง

     

    ดังนั้นที่นี่เราจึงไม่มีสิ่งที่เรียกว่า....ตำรวจ ผู้ที่คอยรักษาความสงบของที่อยู่อาศัย

    ไม่ๆๆๆๆ พวกเราไม่มี

    เมื่อทุกคนเห็นแก่ส่วนรวม 

    ถึงแม้จะมีอิสระในการดำเนินชีวิต มีอิสระในการหาความสุขเล็กๆน้อยๆ

    ก็ไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น แม้แต่น้อย

    แต่เมื่อมนุษย์ที่ชาชินกับการแสวงหาความสุขของตนเป็นที่ตั้งมาอยู่ร่วมกัน 

    ปัญหาก็เกิดขึ้น

    เราถูกมนุษย์ที่มาอยู่ใหม่เอาเปรียบ

    หลอก โกง ขโมย

    และที่ร้ายที่สุดคือการเสียชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์

     

    พวกเขาทำให้ตัวเองมีความสุขสบายโดยไม่สนพวกเรา

    ใช่ พวกเขาทำงานให้เราด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้วนั้น 

     

    มันช่างน่าทุเรศ

     

    ที่พวกเราถูกเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวไม่ใช่เพราะพวกเราโง่ 

    พวกเราวางใจในผู้ที่อยู่ร่วมกัน

    เลยทำให้พวกเราไม่มีความระแวง

    จนเกิดปัญหาขึ้น

     

    อาชญากรรม

    ลักพา 

    ทำร้ายร่างกาย

    ขโมย

    หรือแม้แต่สิ่งที่พวกมนุษย์เรียกมันว่า......การทำอนาจาร โดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม

    พลเมืองทั่วไปของเรา....โดยมากจะไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้ ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีร่างกายที่เหมือนมนุษย์เกือบทุกอย่าง

    สรีระ ส่วนสูง น้ำหนัก กล้ามเนื้อ

    แต่พวกเรามีความสูงส่งกว่า....

    น่าเสียดายที่ต้องพูดแบบนี้แต่มนุษย์นั้นเป็นเผ่าพันที่อยู่ต่ำกว่าเรา

    สังคมของเราจะคล้ายกับสังคมของแมลงที่มนุษย์คุ้นเคย

    จะชนชั้นผู้นำ แรงงาน ประชากรทั่วไป

     

    เมื่อพวกเราชนชั้นผู้นำรวมตัวกันก็เกิดเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่

    การพัฒนาเรานำหน้ามนุษย์ไปมากก็ด้วยการนี้ 

     

    เราทนอยู่อย่างนี้มานานพอสมควร ปล่อยให้มันรุกรานเรา 

    เกิดความเสื่อมเสียภายใน

    จนเมื่อถึงระดับหนึ่งที่เราไม่สามรถทนรับได้

    เมื่อมนุษย์มาอยู่กับเรา สมสู่กับเรา 

    เมื่อเกิดทายาท....ทายาทที่ดันเป็นชนชั้นผู้นำ....

    ถูกปลูกฝังความรู้แบบมนุษย์ให้ สิ่งที่เกิดขึ้นน่ะเหรอ....

     

    พวกมันต่อต้านเรา

    แยกตัวจากเรา

    เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา 

     

    สิ่งที่ตามมา....คือสงครามอันเลวร้าย

    มนุษย์นำความรู้ที่เคยมีมาใช้กับเรา 

     

    เราสูญเสียอย่างหนัก เนื่องจากเราไม่เคยมีสงครามทำให้วิทยาการอาวุธเรามีไม่มาก

    พวกมันเหิมเกริม

    ยึดดาวเรา

    หนึ่ง สอง สาม สี่ 

    มากขึ้นเรื่อยๆ พวกมันแพร่ขยาย แพร่พันธ์

     

    จนถึงระดับที่พวกเรารู้จักการใช้อาวุธสงคราม

    เหล่าชนชั้นผู้นำผู้มีสติปัญญาสูงสุดจะช่วยกันคิดค้น 

    และถูกผลิตโดยชนชั้นแรงงาน

    สงครามเราเริ่มตอบโต้

    วิทยาการเราไปไกลขึ้นเรื่อยๆ เร็วกว่าพวกมนุษย์เช่นกัน มากขึ้น รุนแรงขึ้น อันตรายขึ้น

     

     

    พวกเราสามารถทำลายดาวได้ทั้งดวงในขณะที่พวกมนุษย์ทำได้แค่ทำให้มันราบเป็นหน้ากลอง

     

    ระดับของเรากับมนุษย์นั้นต่างกัน 

     

    ผ่านไปหลายชั่วอายุ

    พันปี หมื่นปี สงครามอันดุเดือดใกล้จบ

    สงครามกินอาณาเขตกว้างจนเกือบเท่ากาแลกซี่

    ดาวหลายพันดวงเป็นดาวที่ขึ้นตรงกับเรา หรือ มนุษย์

     

    วิทยาการความคิดเหล่านั้นนั่นเอง

     

    ผมเป็นศูนย์กลาง

     

    นั่นทำให้ผมรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำความวินาสแก่สรรพสิ่งได้ 

    จนเมื่อวิญญาณผมได้ออกจากร่าง และมาเกิดใหม่บนโลกอื่น.....พูดง่ายๆก็คือตายนั่นแหละ

    ความทรงจำผมลางเรือน แต่ก็จะค่อยๆหวนกลับมาทีละเล็กทีละน้อย 

    และที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือความโหยหาอิสรภาพ

     

    สมดังหวัง

    โลกนี้กว้างกว่ากาแลกซี่สองสามแห่งรวมกันเสียอีก

     

    ตำนานของผมจึงเริ่มขึ้นนั้นเอง

     

    เอาล่ะ ขอกล่าวส่งท้ายก่อนเลยว่ากว่าผมจะสามารถสร้างอะไรๆที่มันอันตรายๆได้ล่ะก็คงอีกนานเลยหลังจากผมเกิด

     

    ผมคงกล่าวได้เท่านี้แล้ว 

     

    ขอขอบคุณที่รับฟัง

     

    และ..... ขอให้สนุกกับตำนานบทใหม่ๆของตัวผมตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเลย"

     


    แล้วก็ที่สำคัญที่สุด.....


    "ถ้าอ่านแล้วชอบก็คอมเม้นให้กำลังใจผู้แต่งคนนี้บ้างห็ได้นะครับ!! ผมไม่กัดหรอกนะ!!!"


    เพลง Code Geass : Stories 

    ธีม : ไม่ทราบที่มา 

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น