Indicus Battalion ( ชื่อชั่วคราว )
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวิทยาการมาเจอกับเวทย์มนตร์ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้ที่ถือครองพิมเขียวแห่งสุดยอดอาวุธของมนุษย์ชาติ ได้ไปเกิดใหม่ยังดินแดนที่เต็มไปด้วยเวทย์มนตร์ บนดินแดนที่กว้างไหญ่ยิ่งกว่ามวลดารา
ผู้เข้าชมรวม
9,041
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สวัสดีครับผม!!!
ผู้อ่านทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านนิยายของกระผม
เรื่องนี้
เป็นเรื่องแรกที่กระผมใด้เขียนขึ้นมา และใด้มีความตั้งใจที่จะเขียนมันจริงๆ
ตัวผู้แต่เอง
ด้้วยที่ว่าชอบความเป็นอิสระ และ เกลียดความอยู่ในกรอบที่สุด
เพราะฉะนั้น
เรื่องที่กระผมแต่งขึ้นมานี้นั้นก็ถูกออกแบบมาให้สามารถที่จะเดินเรื่องไปใด้อย่างไม่มีสิ้นสุดเลย
และออกแบบมาให้จบไม่ใด้ด้วย
อีกสองสามเหตุผลที่กระผมแต่งเรื่องนี้ขึ้นมาก็
ส่วนนึงเพราะอดไม่ใด้ที่อ่านนิยยายแฟนตาซีเกิดไหม่หลายๆเรื่องที่ตัวเอกไม่ค่อยใด้ใช้ความรู้จากโลกเก่าให้เป็นประโยชน์สักเท่าไหร่
เลย
อารมผู้เขียนตอนนั้นรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
โดยเพิ่งจะมาเข้าใจตนเองก็ตอนที่ได้ดู Anime ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า Gate - Thus the JSDF Fought There
และใด้เห็นฉากการสู้รบของพลทหารที่ใช้ปืน
ระเบิด รวมถึงอาวุธสมัยไหม่มากมายในการบดขยี้กองทัพสมัยพระเจ้าเหาที่ไม่รู้จักกระทั่งปืนหรือระเบิด
พร้อมกับใด้เห็นหน้าของพวกนั้น
จึงเข้าใจใด้ว่า "
เห้ย!! มันใช่อะ!! หน้าแบบนั้นแหละใช่เลย!! "
ตั้งแต่นั้นมาตัวผู้เขียนจึงไม่มีความสนุกเท่าไหร่เวลาที่ใด้อ่านนิยายแฟนตาซีต่างโลก
ที่ตัวเอกมันใช้ และฝึกฝนแค่เวทย์มตร์เพียงอย่างเดียวอีกเลย
นิยายเรื่องนี้จึงถือกำเนิดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวสมองของผู้เขียนคนนี้ที่แต่งมาเพื่อความสะใจส่วนตัวล้วนๆ
และขอเพิ่มเติมด้วยว่าสิ่งที่ผู้เขียนจะเขียนลงไปในนิยายเล่มนี้มันจะไม่จบแค่รถถัง
เรือรบ หรือจรวดมิสไซล์ และกระทั่งหัวรบนิวเคลียร์ อย่างแน่นอน
ตัวผู้เขียนมีความตั้งใจที่จะเขียนไปถึงยุคอวกาศของมนุษย์
วิทยาการที่ไปใด้ถึงขีดสุดไนช่วงสงครามอวกาศและผสมมันเข้ากับเวทย์มนตร์
ดังนั้น
จึงตั้งใจจะเขียนให้ความเว่อร์
และความสะใจให้มันโดนตัวผู้เขียนเองจังๆโดยเอาเรื่องความซ้ำและความเป๊ะนั้นเป็นรอง
ก็ ด้วยที่เป็นนักเขียนมือไหม่
ยังไม่เคยแต่งนิยายมาก่อนแม้แต่เรื่องเดียว ช่วงแรกๆอาจมีแปลกๆไปบ้าง
แต่ขอเถิดอย่าเพิ่งเลิกอ่านนะ!!!!
และผมก็พูดจริงๆด้วย ตอนผมเริ่มแต่งมานั้นนิยายเรื่องนี้มันไม่ต่างกับขยะเปียกเลยล่ะ.....จนพอจับทางได้เล็กน้อยก็เลยสามารถแต่งแบบโอเคๆได้น่ะนะครับ......
ถึงจะบอกว่าทำเพื่อตัวเองทั้งหมดก็เถอะนะครับ แต่ก็ยังหวังให้เหล่านักอ่านนั้นมาคอมเม้นชื่นชมนิยายของผมอยู่นะเออ!!!!!!!!
เพราะงั้น ขอให้สนุกนะ ถ้าอยากให้เพิ่มอะไรๆก็บอกกันใด้นะ
เพราะไม่ใด้คิดพลอตจริงจังอยู่แล้ว
เอาล่ะ
พูดเกริ่นมาก็มากแล้ว ได้เวลามาทำความรู้จักกับตัวละครหลักของตัวกระผมสักที
ทุกๆท่าน
ผู้แต่งนิยาย Indicus Battalion, เดียร์ยู
ขอเสนอ.....
ตัวละครหลักของนิยายเรื่องนี้
นาม
Zarnervon
เรื่องราวของตัวกระผมนั้นมันเริ่มมาตั้งแต่ชาติปางก่อนนู้นเลย
แต่ผมคงจะต้องขอเล่าสั้นๆนะครับ พวกท่านจะได้ไปอ่านดู เรื่องราวของกระผมที่เหลือเองยังไงล่ะ!!
โอเค ก่อนอื่น
ชาติปางก่อนของตัวกระผมนั้นก็เป็นโลกคล้ายๆกับที่พวกคุณๆอยู่นั่นล่ะ
ใช่
อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาเดียวกัน
ลองนึกภาพโลกของพวกคุณในอีกสามถึงสี่พันปีข้างหน้าสิ
ในโลกที่มนุษย์นั้นขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของการวิวัฒนาการทางปัญญา
วิทยาการก้าวหน้าในทุกๆด้าน
การแพทย์ วิทยาศาสตร์ การศึกษา วิศวกรรมสาขาต่างๆ
ตึกที่ไม่มีวันพังในคราวแผ่นดินไหวที่รุนแรง
บ้านที่ตั้งมั่นต่อให้คลื่นยักษ์ถาโถมใส่ก็ไม่ระแคะระคาย
ในโลกที่ทุกๆการป่วยสาทารถรักษาได้
และในโลกที่กระสุนนัดเดียวสามารถถล่มภูเขาหินแกร่งทั้งลูกได้
นั้นคือในช่วงสุดท้ายก่อนที่มนุษย์จะได้รับรู้การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ดาวของพวกเขาใกล้ดับ
ทรัพยากรหมดไม่เหลือ
โลหะหาแทบไม่ได้บนผิวโลกจนต้องขุดไปที่เนื้อโลก
ดาวของพวกเขากำลังจะตายก่อนวัยอันควร
พวกเขาก็รู้ดี
แต่กลับไม่พะยายามรักษาดาวของเขาทั้งที่สามารถทำได้
แต่ที่พวกเขาทำก็คือ.....ให้ทายสิพวกเขาทำอะไร
พวกเขาย้ายไปดาวดวงอื่นไงล่ะ!!
ใช่!!
แต่ด้วยการช่วยเหลือของพวกเราน่ะนะ
ถ้าตามตัวพวกเขาเองน่ะ พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเดินทางมาถึงเราด้วยซ้ำ
แต่เรายื่นมือเข้าไปช่วย
พวกมนุษย์ย้ายมาอยู่กับเรา
แต่ว่า....พวกเราเข้ากันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่.....
สังคมของเรากับมนุษย์นั้นค่อนข้างที่จะ....แตกต่างกัน....
พวกเรานั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม
ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
ไม่ใช่พวกเราไม่มีความรู้สึกหรอกนะ
เพียงแต่พวกเราเห็นความสำคัญของส่วนรวมมากกว่าส่วนตนเท่านั้นเอง
ดังนั้นที่นี่เราจึงไม่มีสิ่งที่เรียกว่า....ตำรวจ
ผู้ที่คอยรักษาความสงบของที่อยู่อาศัย
ไม่ๆๆๆๆ พวกเราไม่มี
เมื่อทุกคนเห็นแก่ส่วนรวม
ถึงแม้จะมีอิสระในการดำเนินชีวิต
มีอิสระในการหาความสุขเล็กๆน้อยๆ
ก็ไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น
แม้แต่น้อย
แต่เมื่อมนุษย์ที่ชาชินกับการแสวงหาความสุขของตนเป็นที่ตั้งมาอยู่ร่วมกัน
ปัญหาก็เกิดขึ้น
เราถูกมนุษย์ที่มาอยู่ใหม่เอาเปรียบ
หลอก โกง ขโมย
และที่ร้ายที่สุดคือการเสียชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์
พวกเขาทำให้ตัวเองมีความสุขสบายโดยไม่สนพวกเรา
ใช่
พวกเขาทำงานให้เราด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกันแล้วนั้น
มันช่างน่าทุเรศ
ที่พวกเราถูกเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวไม่ใช่เพราะพวกเราโง่
พวกเราวางใจในผู้ที่อยู่ร่วมกัน
เลยทำให้พวกเราไม่มีความระแวง
จนเกิดปัญหาขึ้น
อาชญากรรม
ลักพา
ทำร้ายร่างกาย
ขโมย
หรือแม้แต่สิ่งที่พวกมนุษย์เรียกมันว่า......การทำอนาจาร
โดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม
พลเมืองทั่วไปของเรา....โดยมากจะไม่สามารถให้กำเนิดทายาทได้
ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีร่างกายที่เหมือนมนุษย์เกือบทุกอย่าง
สรีระ ส่วนสูง น้ำหนัก
กล้ามเนื้อ
แต่พวกเรามีความสูงส่งกว่า....
น่าเสียดายที่ต้องพูดแบบนี้แต่มนุษย์นั้นเป็นเผ่าพันที่อยู่ต่ำกว่าเรา
สังคมของเราจะคล้ายกับสังคมของแมลงที่มนุษย์คุ้นเคย
จะชนชั้นผู้นำ แรงงาน
ประชากรทั่วไป
เมื่อพวกเราชนชั้นผู้นำรวมตัวกันก็เกิดเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่
การพัฒนาเรานำหน้ามนุษย์ไปมากก็ด้วยการนี้
เราทนอยู่อย่างนี้มานานพอสมควร
ปล่อยให้มันรุกรานเรา
เกิดความเสื่อมเสียภายใน
จนเมื่อถึงระดับหนึ่งที่เราไม่สามรถทนรับได้
เมื่อมนุษย์มาอยู่กับเรา
สมสู่กับเรา
เมื่อเกิดทายาท....ทายาทที่ดันเป็นชนชั้นผู้นำ....
ถูกปลูกฝังความรู้แบบมนุษย์ให้
สิ่งที่เกิดขึ้นน่ะเหรอ....
พวกมันต่อต้านเรา
แยกตัวจากเรา
เป็นปฏิปักษ์ต่อเรา
สิ่งที่ตามมา....คือสงครามอันเลวร้าย
มนุษย์นำความรู้ที่เคยมีมาใช้กับเรา
เราสูญเสียอย่างหนัก
เนื่องจากเราไม่เคยมีสงครามทำให้วิทยาการอาวุธเรามีไม่มาก
พวกมันเหิมเกริม
ยึดดาวเรา
หนึ่ง สอง สาม สี่
มากขึ้นเรื่อยๆ
พวกมันแพร่ขยาย แพร่พันธ์
จนถึงระดับที่พวกเรารู้จักการใช้อาวุธสงคราม
เหล่าชนชั้นผู้นำผู้มีสติปัญญาสูงสุดจะช่วยกันคิดค้น
และถูกผลิตโดยชนชั้นแรงงาน
สงครามเราเริ่มตอบโต้
วิทยาการเราไปไกลขึ้นเรื่อยๆ
เร็วกว่าพวกมนุษย์เช่นกัน มากขึ้น รุนแรงขึ้น อันตรายขึ้น
พวกเราสามารถทำลายดาวได้ทั้งดวงในขณะที่พวกมนุษย์ทำได้แค่ทำให้มันราบเป็นหน้ากลอง
ระดับของเรากับมนุษย์นั้นต่างกัน
ผ่านไปหลายชั่วอายุ
พันปี หมื่นปี
สงครามอันดุเดือดใกล้จบ
สงครามกินอาณาเขตกว้างจนเกือบเท่ากาแลกซี่
ดาวหลายพันดวงเป็นดาวที่ขึ้นตรงกับเรา
หรือ มนุษย์
วิทยาการความคิดเหล่านั้นนั่นเอง
ผมเป็นศูนย์กลาง
นั่นทำให้ผมรู้จักทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำความวินาสแก่สรรพสิ่งได้
จนเมื่อวิญญาณผมได้ออกจากร่าง และมาเกิดใหม่บนโลกอื่น.....พูดง่ายๆก็คือตายนั่นแหละ
ความทรงจำผมลางเรือน
แต่ก็จะค่อยๆหวนกลับมาทีละเล็กทีละน้อย
และที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือความโหยหาอิสรภาพ
สมดังหวัง
โลกนี้กว้างกว่ากาแลกซี่สองสามแห่งรวมกันเสียอีก
ตำนานของผมจึงเริ่มขึ้นนั้นเอง
เอาล่ะ
ขอกล่าวส่งท้ายก่อนเลยว่ากว่าผมจะสามารถสร้างอะไรๆที่มันอันตรายๆได้ล่ะก็คงอีกนานเลยหลังจากผมเกิด
ผมคงกล่าวได้เท่านี้แล้ว
ขอขอบคุณที่รับฟัง
และ..... ขอให้สนุกกับตำนานบทใหม่ๆของตัวผมตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเลย"
แล้วก็ที่สำคัญที่สุด.....
"ถ้าอ่านแล้วชอบก็คอมเม้นให้กำลังใจผู้แต่งคนนี้บ้างห็ได้นะครับ!! ผมไม่กัดหรอกนะ!!!"
เพลง Code Geass : Stories
ธีม : ไม่ทราบที่มา
ผลงานอื่นๆ ของ Yurega0 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Yurega0
ความคิดเห็น